อันตรายจากการใช้ปะเก็นประเภท Asbestos ต่อคนทำงาน

อันตรายจากการใช้ปะเก็นประเภท Asbestos ต่อคนทำงาน

 

แร่ใยหิน (Asbestos) คืออะไร?

 

“แร่ใยหิน” หรือ “แอสเบสทอส” (Asbestos) เป็นกลุ่มของแร่อนินทรีย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ที่มีการปะปนรวมอยู่ภายในเนื้อหินซึ่งประกอบไปด้วยธาตุต่างๆ มากมาย เช่น ธาตุเหล็ก แมกนีเซียมและซิลิเกต เป็นต้น ลักษณะของมันจะเป็นเส้นใยเล็กๆ ละเอียด

 

ภาพที่ 1 แร่ใยหิน

 

ชนิดของแร่ใยหิน

 

แร่ใยหินที่สามารถหาพบได้ตามธรรมชาติ สามารถแบ่งออกมาได้ 2 ชนิดดังนี้ครับ

 

1. แอมฟิโบล แบ่งเป็นกลุ่มย่อยได้อีก 5 ชนิด ได้แก่ ครอซิโดไลท์ ทรีโมไบท์ อะโมไซท์ แอคทิโนไลท์และแอนโธฟิลไลท์

 

2. เซอร์เพนไทน์ แบ่งเป็นกลุ่มย่อยได้อีก 2 ชนิด ได้แก่ ไวท์ แอสเบสทอสและไครโซไทล์

 

คุณสมบัติของปะเก็น Asbestos ที่ทำมาจากแร่ใยหิน

 

ปะเก็น Asbestos ที่ทำมาจากวัสดุแร่ใยหินมีคุณสมบัติอันโดดเด่นในด้านของการทนไฟหรือทนทานต่อความร้อน ตั้งแต่ 700 – 1,000 องศาเซลเซียสขึ้นไป และไม่นำพาความร้อนและไฟฟ้า นอกจากนี้ยังทนต่อความเป็นกรด-ด่าง มีความยืดหยุ่นและแข็งเหนียว ซึ่งเป็นที่นิยมมากๆในสมัยก่อน แต่มว่าด้วยความที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ของคนทำงานจึงถูกยกเลิกการใช้งานไป

 

ปะเก็นแร่ใยหิน

 

และเจ้าวัสดุแร่ใยหินนั้นสามารถที่จะนำมาปั่นให้เป็นเส้นและนำมาทอให้กลายเป็นผืนได้ และด้วยคุณสมบัติอันหลากประการดังที่กล่าวมาจึงทำให้ผู้คนนิยมนำแร่ใยหินมาใช้เป็นส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุก่อสร้าง อุตสาหกรรมผลิตท่อน้ำซีเมนต์ อุตสาหกรรมกระดาษอัด อุตสาหกรรมสิ่งทอ กระเบื้องยางไวนิลสำหรับปูพื้น ผ้าคลัตช์ ผ้าเบรกและฉนวนกันความร้อน เป็นต้น

 

วัตถุอันตรายคืออะไร?

 

พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ.2535 จัดแบ่งวัตถุอันตรายออกเป็น 4 ชนิดตามความจำเป็นแก่การควบคุม ได้แก่ วัตถุอันตรายชนิดที่ 1 วัตถุอันตรายชนิดที่ 2 วัตถุอันตรายชนิดที่ 3 และวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งในปัจจุบันมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงาน ตามวัตถุประสงค์ของการนำวัตถุอันตรายไปใช้ดังนี้

 

1. กรมโรงงานอุตสาหกรรม รับผิดชอบวัตถุอันตรายที่นำไปใช้ในทางอุตสาหกรรม

 

2. กรมวิชาการเกษตร รับผิดชอบวัตถุอันตรายที่นำไปใช้ทางการเกษตร

 

3. กรมประมง รับผิดชอบวัตถุอันตรายที่นำไปใช้ทางการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ

 

4. กรมปศุสัตว์ รับผิดชอบวัตถุอันตรายที่นำไปใช้ทางปศุสัตว์

 

5. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รับผิดชอบวัตถุอันตรายที่นำไปใช้ในบ้านเรือน หรือ ทางสาธารณสุข

 

6. กรมธุรกิจพลังงาน รับผิดชอบวัตถุอันตรายที่เป็นก๊าซปิโตรเลียม

 

ประเภทของวัตถุอันตราย

 

  1. วัตถุอันตรายชนิดที่ 1 ได้แก่วัตถุอันตรายที่การผลิต การนําเข้า การส่งออกหรือการมีไว้ในครอบครองต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด
  2. วัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ได้แก่วัตถุอันตรายที่การผลิต การนําเข้า การส่งออกหรือการมีไว้ในครอบครองต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อนและต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนด
  3. วัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ได้แก่วัตถุอันตรายที่การผลิต การนําเข้า การส่งออกหรือการมีไว้ในครอบครองต้องได้รับใบอนุญาต
  4. วัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ได้แก่วัตถุอันตรายที่ห้ามมิให้ มีการผลิต การนําเข้า การส่งออก หรือการมีไว้ในครอบครอง

 

ซึ่งแร่ใยหิน (Asbestos) ชนิด “ไครโซไทล์” จัดว่าเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 และแร่ใยหินในกลุ่ม “แอมฟิโบล” จัดเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 โดยในประเทศไทยอนุญาตให้มีการใช้งานแร่ใยหินชนิดเดียวคือ แร่ใยหินชนิดไครโซไทล์ (Chrysotile) หรือแอสเบสตอสสีขาว

 

อันตรายจากการได้รับแร่ใยหินเข้าสู่ร่างการ

 

อย่างที่ทราบกันนะครับว่า แร่ใยหินมีคุณสมบัติที่ดีในหลายๆแง่ แต่ก็มีโทษมหันต์เช่นเดียวกัน ซึ่งในบางโอกาสเราอาจจะได้รับหรือสัมผัสกับแร่ใยหินโดยที่เราไม่รู้ตัว เราสามารถรับแร่ใยหินเข้าสู่ร่างกายได้ด้วยกันทั้งหมด 3 วิธีดังนี้ครับ

 

  1. ทางจมูกจากการสูดดม
  2. ทางปากจากการหายใจเข้าทางปาก
  3. ทางผิวหนังผ่านการสัมผัส

 

 

ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคจากแร่ใยหิน จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ปัจจัยดังนี้ครับ

 

  1. ปริมาณแร่ใยหินที่เข้าสู่ปอด – หากได้รับแร่ใยหินในปริมาณที่มากในระยะเวลาอันสั้น ก็มีโอกาสเกิดโรคจากแร่ใยหินได้ง่ายมากยิ่งขึ้นครับ
  2. ความคงทนของเส้นใยเมื่ออยู่ในปอด – เมื่อเส้นใยของแร่ใยหินเข้าสู่ร่างกายของเรา ร่างกายของเราก็มีกลไกป้องกันภัยของร่างกาย ที่สามารถขับเอาเส้นใยบางส่วนที่เข้าสู่ร่างกายแล้วออกมาได้ แต่ก็มีเส้นใยบางจำพวก บางขนาดที่ร่างกายไม่สามารถขับออกไปได้เช่นเดียวกัน
  3. ขนาดของเส้นใย
  4. เส้นใยที่มีความยาวมากกว่า 5 ไมครอน และเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 3 ไมครอน และมีความทนทาน จะมีอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากเส้นใยจะสะสมและคงอยู่ในเนื้อเยื่อปอด
  5. เส้นใยที่มีความยาวกว่า 200 ไมครอน และเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 3 ไมครอนจะไม่ไม่สามารถเข้าสู่ถุงลมปอดได้มักจะสะสมอยู่ในทางเดินหายใจส่วนบน และถูกกำจัดออกจากร่างกายโดยขับออกมากับเมือกเป็นเสมหะ
  6. เส้นใยที่มีความยาวน้อยกว่า 5 ไมครอน และเส้นผ่านศูนย์กลางต่ำกว่า 2 ไมครอน จะถูกกลไกของร่างกายกำจัดได้

 

โรคที่สามารถเกิดขึ้นหากได้รับแร่ใยหินเป็นระยะเวลานาน มีด้วยกันดังนี้

 

  1. โรคปอดอักเสบจากแอสเบสตอสหรืออีกชื่อที่เรียกว่าโรคแอสเบสโตสิส (Asbestosis) มีสาเหตุมาจากการหายใจรับเอาเส้นใยแอสเบสตอสเข้าไปสะสมภายในปอดเป็นเวลานานกว่า 5-10 ปี
  2. โรคมะเร็งปอด (Lung cancer) เพราะเมื่อแร่ใยหินเข้าไปยังระบบทางเดินหายใจกระทั่งเข้าไปก่อตัวทำลายเซลล์ปอด เมื่อเกิดเป็นพังผืดในระยะเวลานานนับ 10 ปี อาการดังกล่าวก็จะลุกลามพัฒนามาสู่การเป็นเซลล์มะเร็งจนได้ครับ
  3. โรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอด เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าโรคเมโสธีลิโอมา (Mesothelioma) เป็นได้ทั้งเนื้องอกหรือโรคมะเร็งชนิดหนึ่งที่มีการเกิดขึ้นในบริเวณเยื่อหุ้มปอดและเยื่อบุภายในช่องท้อง โรคดังกล่าวมักเกิดกับผู้ที่มักสัมผัสกับแอสเบสตอสชนิดครอซิโดไลท์และอะโมไซท์เป็นประจำ

 

วิธีการป้องกันและวัสดุทดแทนปะเก็น Asbestos หรือ แร่ใยหิน

 

วิธีการป้องกันการจากสัมผัสกับสารแร่ใยหินในสถานประกอบการที่ใช้แร่ใยหิน หรือช่างก่อสร้างที่มีโอกาสสัมผัสแร่ใยหินโดยตรง ต้องมีการเฝ้าระวังและป้องกันการสัมผัสแร่ใยหินอย่างเข้มงวด มีการตรวจสุขภาพประจำทุกปีเพื่อตรวจสุขภาพของปอดครับ แต่ในส่วนของผู้บริโภคอย่างเราที่จะสร้างบ้านหรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่อาจมีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ ต้องมีมาตรการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างชัดเจน เช่นข้อควรระวังระบุไว้อย่างชัดเจนที่ตัวผลิตภัณฑ์

 

 

วัสดุทดแทนแร่ใยหิน

 

โดยในปัจจุบันนี้แร่ใยหิน ไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก เพราะเนื่องจากมีวัสดุทนแทนที่ให้คุณสมบัติที่เหมือนกันหรือดีกว่า โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย วัสดุทดแทนที่นำมาใช้แทน ยกตัวอย่างเช่น

 

  1. ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเซรามิก สำหรับใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องการการทนความร้อนสูง
  2. ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโพลีเมอร์ สำหรับใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องการความแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นที่สูง

 

ทีนี้กลับมาเรื่องปะเก็นของเรากันต่อนะครับ ในปัจจุบันนี้ปะเก็นแร่ใยหินนั้น หาซื้อหรือหาใช้งานค่อนข้างยากแล้วนะครับ หรือหากจะพอพบเจอได้บ้างก็จะมีในโรงงานที่มีอายุประมาณนึงครับ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากในขณะนี้ ทำให้ปะเก็นในปัจจุบันหรือที่เรานิยมเรียกกันว่า Non-Asbestos gasket มีคุณสมบัติที่ดีและเหนือยิ่งกว่าปะเก็นแบบแร่ใยหินเดิม (Asbestos gasket) ค่อนข้างมาก หรือ อาจจะขยับเป็นแบบ Spiral Would gasket ที่นิยทใช้กันตามมาตราฐานสากลโดยสามารถเลือกได้อย่างหลากหลายเหมาะสมกับการใช้งานของเรานะครับ

 

Non-Asbestos Gasket

 

ASME B16.20 Spiral Wound Gasket(SWG)