แม้ว่าปะเก็นจะสามารถนำมาใช้งานได้อย่างปลอดภัยหลังจากจัดเก็บรักษามาเป็นเวลานาน
แต่ประสิทธิภาพของปะเก็นอาจจะลดลงตามอายุของวัสดุที่เพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากปะเก็นบางชนิดสัมผัสกับอุณหภูมิ ความชื้น โอโซน (ที่เกิดจากแหล่งไฟฟ้าแรงสูง) และการสัมผัสรังสียูวี
จึงต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับการควบคุมปัจจัยที่ทำให้ปะเก็นมีประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง
1.การเสื่อมสภาพของปะเก็นชนิด Non-Asbestos
จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของวัสดุ เช่น ปริมาณของตัวยาง และลักษณะการผลิตปะเก็น
ทั้งนี้ทางโรงงานผู้ผลิตจะต้องให้คำแนะนำในเรื่องการจัดเก็บที่ถูกต้องเพื่อยืดอายุการใช้งานของปะเก็นให้นานขึ้น
2.ปะเก็นชนิดโลหะ (Metallic gasket) การเสื่อมสภาพตามธรรมชาติไม่เป็นที่น่ากังวล
3.ปะเก็นชนิดโลหะผสม (Semi-metallic gasket) อาจมีผลกระทบเนื่องจากมีส่วนผสมของยางหรือสารยึดเกาะ
4.ในส่วนของวัสดุที่เป็นเนื้อเดียวกันอย่าง Graphite และ PTFE ไม่มีสารยึดเกาะจัดเป็นพวกเฉื่อย ทำให้อายุในการเก็บรักษาไม่จำกัด
———————————————————————————————————————————-
สภาวะที่เหมาะกับการจัดเก็บปะเก็น คือ ควรเก็บไว้ในที่เย็นและแห้ง ห่างจากความร้อน ความชื้นที่มากเกินไป หลีกเลี่ยงแสงแดด
และสารเคมี อุณหภูมิที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 4°C ถึง 27°C ที่ความชื้น 40% ถึง 75% ในห้องปิดทึบ ปราศจากแสง UV
ที่เกิดจากแสงไฟ ไม่มีฝุ่น และไม่ควรเก็บสารเคมีหรือแหล่งกำเนิดคลื่นไฟฟ้าสูงๆ ไว้ใกล้ปะเก็น
คำแนะนำในการจัดเก็บโดยทั่วไป
Credit : https://fsaknowledgebase.org/gaskets/library/FSA_Gasket_Handbook_Chapter_3/
Login and Registration Form